สมาคมเพื่อนโรคไตฯ เผยผู้ป่วยใน จ.เชียงราย เข้าที่แล้ว เตรียมลงพื้นที่ จ.หนองคาย ต่อ
The Coverage • Movement • 15 กันยายน 2567
สมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย เผยผู้ป่วยไตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน จ.เชียงราย ได้รับการจัดการให้เข้าถึงบริการได้อย่างต่อเนื่องแล้ว เตรียมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ป่วยใน จ.หนองคาย ต่อในวันที่ 16 ก.ย. นี้
นายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องรับการบำบัดทดแทนไต ในพื้นที่ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงราย ว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์พบว่าในช่วงต้นหลังจากเกิดเหตุกาณ์น้ำท่วม มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและคลินิกเอกชนหลายแห่งที่ถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถให้บริการได้ และแม้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จะไม่ถูกน้ำท่วม แต่มีปัญหาที่ระบบประปาและระบบไฟใช้งานไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถให้บริการในบางเรื่องได้ เช่น การฟอกไตทำไม่ได้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการบริหารจัดการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายนั้น ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายทำให้สามารถบริหารจัดการให้ผู้ป่วยได้รับการบำบัดทดแทนไตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ 18 ราย แต่ได้จัดการด้วยการแบ่งคนไข้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำผู้ป่วยไปฝากกับโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ส่วนที่ 2 นำผู้ป่วยไปฝากที่โรงพยาบาลแม่จัน และหากมีเหตุการณ์เกิดน้ำท่วมซ้ำขึ้นมาอีกรอบก็ยังมีหน่วยบริการที่จะรองรับได้ เช่น โรงพยาบาลเชียงของ และโรงพยาบาลเทิง
ขณะที่ในส่วนของผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง ปัญหาที่พบคือน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์จมไปกับสายน้ำหมด โดยมีผู้ป่วยใน อ.เมืองเชียงราย ได้รับผลกระทบ 22 ราย และที่ อ.แม่สาย มีผู้ป่วยได้รับผลกระทบจำนวน 15 ราย รวมทั้งผู้ป่วยที่ล้างไตด้วยเครื่องอัตโนมัติ (APD) ได้รับผลกระทบอีก 3 ราย อย่างไรก็ดี ขณะนี้สามารถเข้าไปจัดส่งน้ำยาล้างไตแก่ผู้ป่วยได้ทั้งหมดแล้ว
นายธนพลธ์ กล่าวว่า ในภาพรวมแล้ว สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายและระบบต่างๆ น่าจะเข้าที่ โรงพยาบาลแม่สายก็จะกลับมาให้บริการฟอกไตได้ในวันที่ 16 ก.ย. 2567 นี้ ซึ่งหลังจากนี้อีกระยะหนึ่ง ทางสมาคมฯจะกลับมาที่ จ.เชียงราย อีกครั้งเพื่อถอดบทเรียน และช่วยฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยโรคไต แต่อีกทางหนึ่ง ในส่วนของจังหวัดทางภาคอีสานที่ติดแม่น้ำโขงก็ประสบกับอุทกภัยเช่นกัน ซึ่งทีมงานของสมาคมฯ จะลงพื้นที่ จ.หนองคาย ในวันที่ 16 ก.ย. 2567 เพื่อประเมินผลกระทบในพื้นที่ก่อนที่จะรายงานให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทราบ และดำเนินการช่วยเหลือตามสถานการณ์ต่อไป แต่เบื้องต้นคาดว่าที่ จ.หนองคาย น่าจะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่าที่เชียงราย อีกทั้งโรงพยาบาลหนองคายก็อยู่ใกล้แม่น้ำโขงซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน
